วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

โตไปไม่โกง

“โตไปไม่โกง”

ความเป็นมาของความร่วมมือ


การทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาที่ทำลายสังคมอย่างรุนแรงและฝังรากลึก เป็นปัญหาที่สะท้อนวิกฤตการณ์ด้านคุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคม ซึ่งการที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนนั้น คนในสังคมต้องมีค่านิยมในการรักความดีและรู้สึกไม่ยอมรับพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันและการโกงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งการสร้างค่านิยมที่ถูกต้องนี้จะเป็นรากฐานสำคัญเพื่อทำให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ และเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันที่ได้ผลที่สุด ศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย จึงได้ดำเนินกิจกรรมเด็กในทุกรูปแบบเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการรักความถูกต้องและมีความกล้าหาญทางจริยธรรมมาตั้งแต่พ.ศ. 2541 เช่น การจัดค่ายอบรมเยาวชนเมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตยต้านคอร์รัปชัน การจัดทำหนังสือสำหรับเด็ก การประกวดเรียงความ การประกวดภาพเขียน ละครเด็ก และการโต้วาที เป็นต้น
ต่อมาเมื่อกรุงเทพมหานครมีนโยบายที่จะเอาจริงเอาจังต่อการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ปรึกษากับศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม และองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย เพื่อขอให้จัดทำหลักสูตรเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน สำหรับใช้ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จึงได้เกิดหลักสูตร “โตไปไม่โกง” ขึ้น ศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม และองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย จึงได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตร “โตไปไม่โกง” โดยมีที่ปรึกษาอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มาร่วมให้ข้อคิดเห็น โดยมีหลักการสำคัญในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้เด็กนักเรียน เริ่มดำเนินการปีแรกในพ.ศ. 2553 โดยจัดทำหลักสูตรและอบรมครูผู้สอน เพื่อนำไปใช้จัดการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาล 1 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และดำเนินการอย่างต่อเนื่องใน พ.ศ 2554 ซึ่งเป็นปีที่สองของการดำเนินโครงการ ที่ขยายขอบเขตของเนื้อหาหลักสูตรให้ครอบคลุมระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4–6 และ พ.ศ. 2555 ได้ดำเนินการออกแบบเนื้อหาหลักสูตรสำหรับระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 พ.ศ. 2556 ได้ดำเนินการผลิตหลักสูตรระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 -6 พ.ศ.2557 ได้อมรมครูผู้สอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมปลาย
สอนอะไรในหลักสูตร “โตไปไม่โกง”
เนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมความดี 5 ประการที่ช่วยสร้างชาติและต่อต้านการทุจริต ได้แก่

1) ความซื่อสัตย์สุจริต คือ การยึดมั่นในความสัตย์จริงและสิ่งที่ถูกต้องดีงาม รู้จักแยกแยะถูกผิด ปฏิบัติต่อตนเองและผู้อื่นโดยชอบ ไม่คดโกง
2) การมีจิตสาธารณะ คือ การมีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม ตระหนักรู้และคำนึงถึงสังคมส่วนรวม มีความรับผิดชอบต่อตัวเองในการกระทำใดๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อส่วนรวม และพร้อมที่จะเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม
3) ความเป็นธรรมทางสังคม คือ การปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันอย่างมีเหตุผล โดยไม่เลือกปฏิบัติต่อเพศ เชื้อชาติ ชนชั้น สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม
4) กระทำอย่างรับผิดชอบ คือ การมีจิตสำนึกในบทบาทและหน้าที่ของตัวเองและปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เคารพกฎเกณฑ์กติกา พร้อมให้ตรวจสอบการกระทำได้เสมอหากมีการกระทำผิดก็พร้อมที่จะยอมรับและแก้ไข
5) เป็นอยู่อย่างพอเพียง คือ การดำเนินชีวิตโดยยึดหลักความพอประมาณ ซื่อตรงไม่ละโมบโลภมาก รู้จักยับยั้งชั่งใจ และไม่เอาเปรียบหรือเบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น
คู่มือหลักสูตร การอบรมครูผู้สอน และสื่อการเรียนการสอน
คณะผู้จัดทำหลักสูตร “โตไปไม่โกง” ได้จัดการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการสอนแก่ครู เพื่อให้ครูเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาและกิจกรรมในหลักสูตร ซึ่งจะทำให้ครูใช้หลักสูตรอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความภูมิใจแก่ครูในการทำหน้าที่ถ่ายทอดคุณค่าแห่งความดี คู่มือหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ประเภทต่างๆ เช่น แผ่นซีดีเพลง นิทาน หุ่นมือ บทละคร บัตรคำ หนังสืออ่านประกอบ ภาพและเอกสารประกอบการสอน เป็นต้น
การดำเนินงานที่ผ่านมา

พ.ศ. 2553 เริ่มใข้หลักสูตรในระดับชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1 จนถึงประถมศึกษาปีที่ 3
ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวน 280 โรงเรียน และอบรมครูจำนวน 1,400 คน อบรมครูพี่เลี้ยงระดับอนุบาลจำนวน 600 คน
พ.ศ. 2554 ขยายขอบเขตของเนื้อหาหลักสูตรให้ครอบคลุมระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4-6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวน 431 โรงเรียน และอบรมครูจำนวน 1,296 คน
พ.ศ. 2555 ได้รับความร่วมมือจากสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย จัดให้มีการอบรมครูสังกัดโรงเรียนเครือคาทอลิกจำนวน 600 คน และออกแบบและผลิตหลักสูตรในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3
พ.ศ. 2556 ได้อบรมครูในสังกัดกรุงเทพมหานครในระดับชั้น ม.1-ม.3 จำนวน 105 โรงเรียน อบรมครูจำนวน 630 คน และอบรมครูโรงเรียนเครือคาทอลิกจำนวน 136 คน และอบรมเพิ่มเติมระดับ อ.1-ป.6 โรงเรียนในเครือคาทอลิกอีกจำนวน 339 คน และอบรมครูโรงเรียนจากต่างจังหวัด เช่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ได้รับสนับสนุนทุนจากมูลนิธิเรวดี เทียนประภาส ซึ่งในปัจจุบันผลิตหลักสูตรสำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6
พ.ศ. 2557 ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเรวดี เทียนประภาส และมูลนิธิยุวพัฒน์ จัดอบรมครูจากโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ ระดับชั้น อ.1-ม.6 รวมทั้งโรงเรียนบางแห่งที่สามารถสนับสนุนตนเอง จำนวน 269 คน
การจัดการเรียนการสอนของหลักสูตร “โตไปไม่โกง” เน้นที่ตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ เพราะการเรียนรู้ในหลักสูตรนี้ไม่ได้เน้นการท่องจำ แต่เน้นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน จนกระทั่งเกิดความเข้าใจและความตระหนักรู้ของผู้เรียน ให้สามารถแยกแยะถูก-ผิด ดี-ชั่ว ดังนั้น ตัวผู้เรียนหรือนักเรียนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

กิจกรรมที่ใช้ในหลักสูตรเป็นกิจกรรมที่ให้ทั้งความสนุกสนานและสร้างสรรค์ ผ่านการเล่านิทาน เกมการละเล่นต่างๆ การร้องเพลง กิจกรรมศิลปะ บทกวีและคำคล้องจอง การใช้เรื่องสั้นและวรรณกรรมสำหรับเด็ก รวมทั้งกรณีศึกษาและกิจกรรมสร้างประสบการณ์อื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้เด็กคิดอย่างมีเหตุผลและซึมซับคุณค่าแห่งความดีอย่างเป็นธรรมชาติ และสร้างความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ภูมิใจในการทำความดี รังเกียจคนโกงและคนเก่งแต่โกง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น